สำนักงานอุทยานการเรียนรู้ (TK park) ร่วมกับ สำนักงาน
สถิติแห่งชาติ จัดงานแถลงข่าว "ผลสำรวจการอ่านของประชากร
ประจำปี พ.ศ. 2561" พบว่าคนไทยใช้เวลาอ่านเพิ่มมากขึ้น
เป็น 80 นาทีต่อวัน โดยอ่านหนังสือเล่มร้อยละ 88 และอ่าน
บนสื่ออิเล็กทรอนิกส์มาแรงถึงร้อยละ 75.4 ซึ่งอยู่ในระดับที่
ใกล้เคียงกันมากขึ้น สะท้อนว่าหนังสือเล่มยังคงอยู่เคียงคู่
สื่อใหม่ ในภาพรวมมีคนไทยอ่านร้อยละ 78.8 ซึ่งหมายถึง
ยังมีคนไทยที่ไม่อ่านถึงร้อยละ 21.2
วันเพ็ญ พูลวงษ์ รองผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติ
เปิดเผยภาพรวมสำรวจการอ่านของคนไทยในปี พ.ศ. 2561
พบว่าคนไทยอายุ 6 ปีขึ้นไป อ่านร้อยละ 78.8 หรือคิดเป็น
จำนวนประชากร 49.7 ล้านคน โดยในกรุงเทพฯ มีคนอ่าน
มากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 92.9, ภาคกลางร้อยละ 80.4
ภาคเหนือและภาคอีสานร้อยละ 75 และ ภาคใต้ร้อยละ 74.3
ขณะที่เวลาในการอ่านสูงขึ้น พบว่าคนไทยอ่านหนังสือนานสุด
80 นาที/วัน เทียบจากปี 2558 อ่าน 66 นาที และ 2556
อ่าน 37 นาที
กิตติรัตน์ ปิติพานิช รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารและ
พัฒนาองค์ความรู้และผู้อำนวยการสำนักงานอุทยานการเรียนรู้
กล่าวว่า อุทยานการเรียนรู้ TK park ร่วมมือกับสำนักงาน
สถิติแห่งชาติ เพื่อเผยแพร่ผลสำรวจการอ่านของประชากรไทย
มาแล้ว 2 ครั้ง คือการสำรวจในปีพ.ศ. 2556และ พ.ศ. 2558
และพบว่าสถิติการอ่านของคนไทยมีการเปลี่ยนแปลงตาม
สภาพแวดล้อมและสถานการณ์ที่แตกต่างกันออกไป สำหรับในปีนี้
เมื่อเราเข้าสู่ยุคดิจิทัล แน่นอนว่าการอ่านผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์
ย่อมส่งผลอย่างมีนัยสำคัญต่อการอ่าน ทำให้ห้องสมุด ร้านหนังสือ
หรือส่วนงานที่เกี่ยวข้องย่อมต้องปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงนี้
จึงหวังให้ข้อมูลและสถิติการอ่านนี้เป็นประโยชน์กับทุกภาคส่วน
โดยเฉพาะหน่วยงานที่ทำงานด้านการส่งเสริมการอ่านและ
การเรียนรู้
นอกจากนี้ผลสำรวจยังชี้ให้เห็นว่า "หนังสือเล่มยังไม่ตาย!" ใน
ช่วงเวลา 3 ปีนี้เราเห็นได้ชัด ความนิยมการอ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์
อยู่ที่ร้อยละ 75.4 ซึ่งสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
แต่อัตราการลดลงของการอ่านหนังสือเล่มกลับไม่สูงเท่าไรนัก
เพราะจากการสำรวจยังคงมีคนอ่านหนังสือเล่มอยู่ถึงร้อยละ 88
ดังนั้นแนวทางการส่งเสริมการอ่านในอนาคตจึงสามารถรณรงค์
ควบคู่กันไปได้ทั้งสองทาง
ประเด็นสุดท้าย ห้องสมุดทั่วโลกต้องรู้จักปรับตัวเพื่อการอยู่รอด
ซึ่งสอดคล้องกับผลการสำรวจที่แสดงตัวเลขผู้อ่านหนังสือใน
ห้องสมุดเพียงร้อยละ 0.6 ของคนอ่านหนังสือ หรือ คิดเป็นจำนวน
298,000 คน ซึ่งต่ำกว่า 3 แสนคนเป็นครั้งแรก! โดยมีผู้ยืม-คืน
หนังสือลดลง คิดเป็นร้อยละ 8.3 ซึ่งปรากฏการณ์การลดลงของผู้
มาอ่านหนังสือในห้องสมุดนี้เกิดขึ้นทั่วโลก ไม่ใช่แค่ในเมืองไทย
ดังนั้นห้องสมุดเองจะต้องมีการปรับตัวขนานใหญ่นอกเหนือจาก
การเป็นพื้นที่อ่านหนังสือ เพื่อรองรับการใช้งานที่ตอบโจทย์
ความต้องการของผู้คนในชุมชนอย่างแท้จริง
ขอบคุณข้อมูลจาก
http://oknation.nationtv.tv/blog/marketing-ok/2019/04/30/entry-1
หน้าที่เข้าชม | 16,488 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 11,236 ครั้ง |
เปิดร้าน | 9 พ.ค. 2562 |
ร้านค้าอัพเดท | 12 ต.ค. 2568 |